ท้องผูกเกิดจากอะไร สาเหตุและวิธีแก้อาการท้องผูก

 
 



ท้องผูกคือการที่อุจจาระมีลักษณะแข็ง ทำให้เกิดการถ่ายอุจจาระยาก หรือมีการถ่ายอุจจารัน้อยผิดปกติ ซึ่งอาจจะอยู่ 2-3 วันจะถ่ายอุจจาระ 1 ครั้ง หรือถ้าหนักๆหน่อย ก็อาจจะ 4-5 วัน จึงจะขับถ่าย 1 ครั้ง ซึ่งแตกต่างจากคนทั่วๆไปที่จะมีการถ่ายทุกวัน โดยในช่วงเช้าจะเป็นช่วงที่คนปกติถ่ายง่ายที่สุด แต่หลังจากผ่านพ้นเวลานั้นไป ลำไส้จะดูดน้ำจากอุจจาระกลับ ทำให้มีลักษณะเป็นก้อนแข็งและขับถ่ายได้ยากยิ่งขึ้น โดยที่อาการท้องผูกนั้นจะพบในผู้หญิง มากกว่าผู้ชาย

ท้องผูก

สาเหตุของอาการท้องผูก

สำหรับต้นตอของอาการท้องผูกนั้น มีอยู่หลายสาเหตุด้วยกันโดยสามารถจำแยกได้ดังนี้

- อาหารการกิน เราจะพบว่าผู้ที่เป็นท้องผูกส่วนหนึ่ง มีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารที่มีกากใยอาหารน้อย หรือรับประทานอาหารที่มีแต่เนื้อสัตว์ แป้งและไขมัน อีกทั้งยังดื่มน้ำน้อยอีก จึงส่งผลให้เกิดปัญหาท้องผูกขึ้นได้

- ป่วยเป็นโรคต่างๆ ซึ่งโรคต่างๆที่อาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ ตัวอย่างเช่น มีสิ่งกีดขวางในทางเดินอาหาร เนื้องอกในลำไส้

- การรับประทานยา ตัวยาบางชนิด มีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดอาการท้องผูก เช่น ยาบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็ก ยาลดกรด ยาแก้ความดัน ยาแก้ซึมเศร้า ยารักษาอาการทางจิตบางประเภท

- ความเครียด หากร่างกายเกิดความเครียด จะทำให้เกิดอาการไม่อยากกิน หรือเบื่ออาหาร ซึ่งส่งผลกับระบบการขับถ่ายไปด้วย

- การไม่ออกกำลังกาย เนื่องจากการออกกำลังกาย จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดกระบวนการต่างๆในร่างกาย รวมไปถึงระบบการเผาผลาญ

วิธีแก้ปัญหาเมื่อเกิดอาการท้องผูก

สำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคท้องผูก หรือถ่ายยากนั้นมีวิธีในการดูแลตัวเองอย่างง่ายๆ นั่นคือ การกินอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผักต่างๆ ผลไม้ และดื่มน้ำบ่อยๆ งดการดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มทุกชนิดที่มีแอลกอฮอล์

ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา หลังจากตื่นนอนในตอนเช้า เนื่องจากเป็นเวลาที่ร่างกายจะมีความรู้สึกอยากขับถ่ายมากที่สุด และออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเร่งการเผาผลาญ และยังทำให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงอีกด้วย